สัญญาแบบไหนถึงจะครบถ้วน

เชื่อว่าหลายท่านเคยสงสัยในการตรวจสอบสัญญาว่าสัญญาที่ดีนั้นมีเนื้อหาเป็นแบบไหน จากที่แอดมินเคยนั่งมึนมาก่อนซึ่งวันนี้จะมาช่วยขยายความเข้าใจให้ทุกคนนะครับ

เริ่มต้นจากหัวข้อสำคัญในสัญญากันก่อนเลยโดยมีทั้งหมด 7 ข้อ

ข้อ1.ชื่อของสัญญา(กลางหน้ากระดาษ) ว่าเป็นสัญญาอะไรอาทิเช่น สัญญาเช่า สัญญาซื้อขาย สัญญาค้ำประกัน ต่างๆ ช่วยให้เราเข้าใจว่าเนื้อหาในสัญญาควรจะเป็นไปในทางไหน

ข้อ2.สถานที่ทำสัญญาเพื่อจะทราบได้ว่าทำกันที่ไหนหากมีปัญหาขึ้นจะเขื่อมโยงไปถึง้เขตอำนาจศาล

ข้อ3.วันที่ทำสัญญาต่อกันส่วนมากจะเขียนกันไว้กลางหัวกระดาษ วันที่….เดือน….พ.ศ…..” หรือไม่เขียนเลยก็ได้ เช่น 12 มีนาคม 2563

ข้อ4.รายละเอียดของคู่ว่าเป็นใคร สัญญาว่ามีที่อยู่ที่ไหน ทิ้งท้ายด้วยฐานะในคู่สัญญาว่าเช่น ผู้เช่า ”  ‘’ผู้ให้เช่า’’ ชื่อฐานะคู่สัญญานั้นขึ้นอยู่ว่าเป็นสัญญาอะไร การใช้ก็แตกต่างกันไป

ข้อ5.ข้อกำหนดในสัญญานั้นต้องมีการเกริ่นก่อนว่า คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันมีข้อความอยู่ว่า ต่อมาก็รันตามเลขไปได้เลยว่าอยากได้ข้อตกลงอะไรบ้างในสัญญาที่จะใช้บังคับ

ต่อกัน จำนวนเงิน การจ่ายเงิน ระยะเวลาในสัญญาต่าง เป็นต้น

ข้อ6.มาถึงข้อนี้คือบทสรุปของสัญญาว่าสัญญานี้ทำขึ้นกี่ฉบับ ตรงตามเจตนาของคู่สัญญาหรือไม่ มีการลงลายมือชื่อในสัญญา ต่อหน้าพยาน ใครเป็นคนเก็บเช่น  สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น

สองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกันทุกประการ คู่สัญญาที่เกี่ยวข้องทราบข้อความข้างต้นและรับว่าเป็นความจริง จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน ยึดถือกันไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ”

ข้อ7.มาถึงส่วนท้ายที่สุดของสัญญาแล้วนะครับคือการลงลายมือชื่อของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย เท่านี้สัญญาก็เป็นอันสมบูรณ์แล้ว

เห็นไหมครับไม่ยากอย่างที่คิดสละเวลาซักนิดจะได้ไม่มีปัญหาให้ปวดหัวทีหลังตรวจเช็คสัญญาให้ดีก่อนและเซ็นกำกับทุกหน้าเพื่อความปลอดภัยด้วยครับ